Jul 18, 2008

Forgotten Temple B1F Dungeon Guide


ข้อมูล Dungeon
ชื่อ: Forgotten Temple B1F Dungeon
เลเวลที่ต้องการ: 115 ขึ้นไป (ได้ทั้งปาร์ตี้และลุยเดี่ยว)
ไอเทมที่ต้องการ: Muster Card: Forgotten Temple B1F
Honor Point: 3,000
ทางเข้า: แมพ Forgotten Ruin วิ่งไปจนถึงจุดเกิดบอสนกที่อยู่สุดแผนที่

1. วิ่งขึ้นบันไดไป แล้วหยุดคุยกับแท่นกลางบันได (Hourglass) เพื่อให้ประตูไฟเปิดทาง

2. วิ่งขึ้นบันไดมาจะเจอรูปปั้นสิงโต (Lion Stone Statue) กดคุย จากนั้นก็วิ่งตามทางต่อไปค่ะ อาจจะต้องหยุดรอกำแพงไฟ ตรงสะพานสักพัก กำแพงไฟนี้จะเหมือนประตูสไลด์ รอมันหยุดพ่นไฟ ถึงจะวิ่งต่อไปได้


3. ตรงมาเรื่อยๆจนถึงทางตัน ให้หันไปคุยกับแท่นใหญ่ๆ(Rust Device) หน้าประตูด้านซ้ายมือ คุยเสร็จกำแพงด้านหน้าจะสลายลง วิ่งตรงเข้าไปเลยค่ะ

4. เข้ามาจะเจอมอนสเตอร์ Grick ฝูงใหญ่ พยายามลากให้ได้เยอะที่สุดแล้วค่อยยิงค่ะ จะได้ประหยัดเวลาขึ้นมาหน่อย Grickไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ ตัวค่อนข้างนิ่ม อัดปานกลาง แต่สำหรับอาชีพตัวบางอย่างวิซาด หรือ ธนู ก็ต้องระวังนิดนึง แนะนำให้ใส่สร้อยแหวนดูดเลือดไว้ด้วย

5. ฆ่า Grick เสร็จแล้วให้คุยกับ แท่นใกล้ๆหน้าประตูไฟ (Demon's Coffin) แท่นด้านขวามือ คุยเสร็จประตูไฟฝั่งนี้จะลดลง จากนั้นเราต้องวิ่งเข้าไปตีประตูไฟฝั่งโน้น

6. สำหรับคนที่ทนรับ damage ของประตูไฟ กับลูกไฟในบริเวณนั้นไม่ไหว แนะนำให้กดออร่า หรือ แบทเทิลก่อนวิ่งเข้าไป ถ้าเป็นอาชีพยิงไกล แนะนำให้ยืนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งของประตู และยืนให้ห่างจากประตูไฟ เราจะโดนยิงแค่ป้อมเดียว ถ้าหากไปยืนตรงกลาง หรือชิดประตูมากเกินไป เราจะโดน damage ทั้งประตูไฟ และป้อมทั้งสอง

7. หลังจากตีประตูไฟเสร็จ เราจะเจอมอนส์เตอร์ Obidiant อีก 1 ฝูง เป็นมอนยิงระยะไกล ต้องพยายามลากมอนให้มารวมกันแล้วค่อยยิง ถ้าไม่สามารถลากทีเดียวได้ทั้งฝุง ก็ค่อยๆลาก ครั้งละประมาณ 4-6 ตัวได้ค่ะ


8. ฆ่า Obidiant เสร็จ เราจะมาหยุดที่หน้าประตูไฟ ให้หันไปคุยกับรูปปั้นงู (Snake Statue) จากนั้นเราจะวาร์ปเข้าไปยังห้องบอสตัวที่ 1 Nestbite

9. Nestbite ค่อนข้างอัดหนัก สำหรับอาชีพตัวบางอย่าง วิซาด หรือ ธนู แนะนำให้ใช้เวทย์ที่ยิงไกลๆหน่อย สำหรับวิซาด ก็จะเป็นเวทย์ตระกูลแคนนอน และอาชีพยิงไกลอย่างเราต้องคอยเก็บลูกน้องบอส Serpent ที่เกิดมุมห้องทั้ง 4 มุม โดยมุมแรกจะอยู่ทางซ้ายมือ บน จากนั้นก็วนตามเข็มนาฬิกามาเรื่อยๆ ถ้าหากเราไม่ฆ่า Serpent เมื่อมันเกิดครบ 4 ตัว ห้องนี้จะระเบิด ไม่ว่าอยู่มุมไหนของห้องเราจะโดนแสงเลเซอร์ ซึ่งอัดหนักมาก มีสิทธิ์ร่วงในพริบตา ความแรงของแสงเลเซอร์ขึ้นอยู่กับจำนวน Serpent ที่เราไม่ได้ฆ่า ถ้าหากเรายังตีบอสได้ไม่ไวพอ แนะนำว่าให้ฆ่า Serpent ให้ทัน แต่ถ้าคิดว่าเราสามารถฆ่าบอสให้ตายก่อนที่ Serpent จะเกิดครบ 4 มุม ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ ตั้งหน้าตั้งตาตีบอสไปค่ะ


10. จัดการบอส Nestbite เสร็จเราจะได้กล่องสมบัติ 1 กล่อง จากนั้นก็กดคุยกับรูปปั้นหัวงู 2 ครั้ง (Huge Snake Statue)

11. วิ่งตรงตามทางต่อไปจะเจอมอนส์เตอร์อีก 1 ฝูง คือ Felichra และ Vigest ทำเหมือนเดิมค่ะ ลากให้มากที่สุดแล้วฆ่า ถ้าหากเรายังไม่ได้กุญแจไขห้องสมบัติ ก็ต้องตีมอนส์เตอร์ให้หมด แต่ถ้าหากว่าได้กุญแจมาแล้วก็ตีแค่ของเควสครบก็พอแล้วค่ะ

12. วิ่งตีมอนตามทางไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงกำแพงไฟ เราจะเจอแท่น Beetle Tomb ให้ตีแท่นนี้เพื่อเอาของเควสสำหรับ ซื้อผ้าคลุม (Record of the Mutant)

13. เมื่อได้ไอเทม Record of the Mutant แล้วให้วิ่งย้อนกลับไปตามทางที่มาจนเจอกับ เตาไฟรูปเต่า (Turtle Statue) ให้หยุดคุย จากนั้นประตูจะเปิดให้เราเข้าไปซื้อผ้าคลุมกับ Mutant Resercher ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่าย 1m ผ้าคลุมนี้ค่อนข้างจำเป็น เพราะบอสตัวต่อไปที่เราต้องสู้อัดหนักมาก ขนาดใส่ผ้าคลุม+ออร่า รวมแล้ว def ประมาณ 900-1000 ยังโดนอัดเฉลี่ยๆ อยู่ที่ 800-900


14. ซื้อผ้าคลุมเสร็จให้วิ่งกลับมาทางเดิม สังเกตว่าตอนนี้ไม่มีประตูไฟกั้นแล้ว ประตูไฟนี้หายไปเพราะเราไปคุยกับเตาไฟรูปเต่า เมื่อวิ่งเข้ามาในห้องแล้วให้มาคุยกับแท่นสีม่วงๆนี้ (Red Aquarium) ตรงนี้ต้องระวังหน่อยสำหรับคนที่มาเป็นปาร์ตี้เพราะทันทีที่คุย ตรงทางเข้าห้องจะมีประตูไฟกั้นขึ้นมา ก่อนกดก็ให้แน่ใจว่าเพื่อนที่อยู่ข้างหลังเข้ามาในห้องแล้ว แต่ถ้าหากเข้ามาไม่ทันจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เสียเวลายืนตีประตูสักหน่อย

15. พอกดคุยกัยแท่นสีม่วง ในห้องนี้จะมีมอนส์เตอร์เกิดทันที แบ่งเป็น Vice Felichra 2 ชุด และ Vice Vigest 2 ชุด

16. หลังจากมอนสเตอร์ทั้ง 4 ชุดตายหมด ประตูไฟอีกฝั่งจะเปิดประมาณ 10 วินาทีให้เราวิ่งเข้าไป ถ้าหากเราวิ่งเข้าไม่ทันจะมีกำแพงไฟขึ้นมากั้น เราต้องตีกำแพงไฟเอง

17. หลังจากผ่านกำแพงไฟ เราจะเข้ามาในห้องบอสตัวที่ 2 Chakris หรือบอสแมว ความพิเศษของบอสตัวนี้คืออัดหนักมากถึงมากที่สุด และเลือดยังเด้งไวด้วย ถ้าหากตีคนเดียวแล้วอาวุธไม่แรงพอ ไม่แน่ใจว่าจะตีตายมั้ย เพราะหลังจากตีบอสไปได้แปบนึง ลูกน้องบอส Vigest Guard จะเกิดแล้วบอสก็จะมีบาเรียรอบตัว ทำให้เรายิงบอสไม่เข้า จังหวะนี้เราต้องลงมาตีลูกน้องบอสให้ตาย ถ้าเราตีบอสแมวไม่ค่อยเข้า กลับมาอีกที บอสอาจจะเลือดเต็ม -*- เทคนิคของการตีบอสตัวนี้คือ ก่อนวิ่งเข้าไปตีบอส เราจะเจอลูกน้องบอส 3 ตัว ในนั้นมีตัวจริงอยู่ 1 ตัว ซึ่งการแยกแยะตัวจริง ตัวปลอมนั้นไม่สามารถทำได้ค่ะ ต้องสุ่มเอา เราต้องสุ่มฆ่าตัวใดตัวหนึ่งที่ไม่ใช่ตัวจริง คือยิงหมู่พร้อมๆกันไปเรื่อยๆ จนใกล้ ตายทั้ง 3 ตัว จากนั้นใช้สกิลที่โจมตีมอนแค่ตัวเดียว เลือกเอาว่าจะยิงตัวไหน ถ้าโชคดี มอนตัวนั้นตายแล้วจะเหลือมอนอีก 2 ตัว ถ้าโชคร้ายไปยิงตัวจริง มอนจะหายไปทั้งหมด ทีนี้ก็ต้องรอมอนเกิดแล้วทำแบบเดิมอีกครั้ง จนกว่ามอนจะตายแค่ตัวเดียว แล้วเหลืออีก 2 ตัว หลังจากมอนตาย ให้เรายืนรออยู่อย่างนั้นจนกว่ามอนตัวที่ตายจะเกิดใหม่ พอมอนเกิดเพิ่มมา 1ตัวรวมเป็น 3 ตัว เราก็จัดการยิง 2 ตัวที่เหลือ ที่อาการปางตายทิ้งซะ จากนั้นมอนทั้ง 3 ตัวจะหายไป คราวนี้ก็กด ออร่า+แบทเทิล บัฟทุกอย่าง จากนั้นก็ขึ้นไปลุยกับบอสแมวได้เลย ถ้าหากทำได้อย่างนี้ จังหวะแรกนี้เราจะตีมอนได้ 45 วินาที ถ้าหากอาวุธแรงๆ หรือรุมกันเยอะๆ ก็อาจจะ ล้มบอสได้เลย แต่ถ้าหากไม่ทัน พอลูกน้องบอสเกิด เราก็รีบวิ่งมาตีลูกให้ตาย จากนั้นก็รีบวิ่งกลับขึ้นไปตีบอสต่อ คิดว่าแค่ 2 รอบนี้บอสก็น่าจะตายได้แล้วค่ะ

18. หลังจากบอสตาย เราจะได้กล่องสมบัติ 1 กล่อง จากนั้นให้เราถอดผ้าคลุมที่ซื้อมาจากพ่อค้าออก แล้วจัดการทุบเพื่อเอาของเควส ไม่ต้องเสียดายค่ะ ยังไงก็ต้องทุบ ไม่งั้นจะเข้าไปประตูห้องต่อไปไม่ได้ ทุบผ้าคลุมเสร็จให้กดคุยกับแท่น The gate's record:1st จากนั้นเราจะถูกวาร์ปเข้าไปห้องถัดไป

19. วิ่งตามทางไปเรื่อยๆค่ะ จนเจอกำแพงไฟ ให้หยุดตี จากนั้นเราจะเข้ามาในห้องโกเลม

20. ห้องโกเลมนี้จะมี Granite Golem และลูกน้อง Druga อยู่ทั้งหมด 6 ฝูง โดยแบ่งเกิดเป็น 3 ชุด: ชุดที่ 1- 1ฝูง ชุดที่ 2- 2 ฝูง และชุดที่ 3- 3ฝูง ความน่ากลัวของมอนส์เตอร์ชุดนี้ คือ ถ้าหากโดนอัดพร้อมๆกัน แล้ว defense ไม่มากพอ มีนอนค่ะ ถ้าหากไม่โดนอัดพร้อมๆกัน ก็สู้สบายๆค่ะ

21. หลังจากฆ่าโกเลมทั้งหมด ประตูไฟจะเปิดให้เราเข้าไปห้องถัดไปได้ ถ้าหากเรายังไม่ได้กุญแจไขห้องสมบัติ ให้หยุดตี มอนอีกฝูงหนึ่ง Groga เพื่อรอลุ้นกุญแจ แต่ถ้าหากได้กุญแจตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว มอนส์เตอร์พวกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าค่ะ วิ่งผ่านไปได้เลย

22. หลังจากผ่านดง Groga มาแล้วเราจะเจอประตูไฟ ให้เราวิ่งเลยประตูมาหน่อยเพื่อคุยกับแท่นตรงกำแพง (Devil Coffin) จากนั้นประตูไฟจะเปิด ให้รีบวิ่งเข้าไป

23. วิ่งเข้ามาเราจะเจอประตูไฟอีกชั้นนึง ประตูนี้จะเปิดให้เราเข้าไปฆ่าบอสตัวสุดท้าย Orca the Origin ซึ่งเปิดและปิดไวมาก พยายามกด dash หรือ blink ย้ำๆไว้ ถ้าหากเราเข้าไม่ทัน เราจะต้องเสียเวลายิงประตู และอาจจส่งผลให้เราฆ่าบอสไม่ทัน


24. พอเราเหยียบเข้ามาในห้องบอส บอสจะเกิดทันที ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงค่ะ จะออร่า แบทเทิล 1 หรือ 2 ก็แล้วแต่สะดวกค่ะ อัดให้หนักที่สุด เพราะเรามีเวลาฆ่าบอสแค่ 3 นาที ถ้าหากภายใน 3 นาทีเราเอาบอสไม่ลง บอสจะหายตัวไป เราต้องรออีกสักพักเพื่อให้บอสร่างที่ 2 เกิด ซึ่งบอสดันนี้จะมีอยู่ 5 ร่างบอสร่างที่ 2-3-4-5 จะอัดหนัก และ เกราะหนาขึ้นไปตามลำดับ เท่าที่เคยลองมา เคยล้มได้แค่บอสร่างที่ 3 ร่างที่ 4-5 นี่ไม่ไหวค่ะ อัดทีเดียวไม่ร่วงก็ปางตาย แถมยิงไม่เข้าอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นพยายามฆ่าให้ได้ซะตั้งแต่ร่างแรกนี่แระค่ะ

25. ฆ่าบอสเสร็จเราจะได้กล่องสมบัติอีก 1 กล่อง จากนั้นกดคุยกับแท่นหน้ารูปปั้น Stone Guardian Generatorเป็นอันจบดัน ได้ Honor point 3,000

เพิ่มเติม
ดัน 115 นี้จะมีกุญแจให้เราไขห้องสมบัติอยู่ 3 สี คือ Mutant Key Red, Mutant Key Green, Mutant Key Blue ซึ่งกุญแจแต่ละสีจะต้องวิ่งไขกล่องทั้งหมด 3 กล่อง

Mutant Key Red
กล่องที่ 1- อยู่ตรงจุดเกิด
กล่องที่ 2- อยู่ตรงทางเดินหลังห้องบอสตัวที่ 1
กล่างที่ 3- อยู่ในห้องบอสตัวที่ 1

Mutant Key Green
กล่องที่ 1- อยู่ตรงทางเดินไฟหลังห้องบอสตัวที่ 2
กล่องที่ 2- อยู่หน้าประตูไฟ ตรง Gricks
กล่องที่ 3- อยู่ในห้องก่อนถึงห้องบอสตัวที่ 2

Mutant Key Blue
กล่องที่ 1- อยู่ตรงทางเดินก่อนถึงประตูห้องบอสตัวที่ 3
กล่องที่ 2- อยู่ในห้องก่อนถึงห้องบอสตัวที่ 2
กล่องที่ 3- อยู่ในห้องโกเลม
 

Cabal Online Fansite Copyright © 2008 Green Scrapbook Diary Designed by SimplyWP | Made free by Scrapbooking Software | Bloggerized by Ipiet Notez